มหาวิทยาลัยพะเยาได้พัฒนานวัตกรรมดิจิทัลและสร้างความร่วมมือกับชุมชนเพื่อรับมือกับปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยที่ทวีความรุนแรงขึ้นในภาคเหนือของประเทศไทย ในจังหวัดพะเยาและเชียงราย ซึ่งมีระบบชลประทานครอบคลุมเพียงร้อยละ 15 ของพื้นที่เกษตร มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งทีมวิจัยด้านทรัพยากรน้ำเพื่อพัฒนาเครื่องมือสำคัญ ได้แก่ “เก็บน้ำ” สำหรับการทำแผนที่โครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ “เกษตรกรสมาร์ทวอเตอร์” สำหรับการบริหารจัดการน้ำระดับไร่นา และ “เชียงราย/กว๊านสมาร์ทวอเตอร์” สำหรับการตัดสินใจเชิงลุ่มน้ำ เครื่องมือเหล่านี้ได้รับการนำไปใช้โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 20 แห่ง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากกว่า 1,500 ราย ส่งผลให้เกิดการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ความรู้ด้านภูมิอากาศ และศักยภาพเชิงนโยบาย
นอกจากนี้ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารยังได้ประยุกต์ใช้โซลูชันดิจิทัลในการบริหารจัดการภัยพิบัติและวางแผนเมืองอัจฉริยะ โดยร่วมออกแบบแผนเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยที่บูรณาการข้อมูลปริมาณน้ำฝน แผนที่จากโดรน และการมีส่วนร่วมของชุมชน ภายใต้กรอบแนวคิดเซนได (Sendai Framework) ซึ่งขยายการดำเนินงานจากเทศบาลตำบลแม่กาไปยังจังหวัดเชียงราย น่าน และสกลนคร ผลลัพธ์สำคัญ ได้แก่ “สถานีตรวจวัดระดับน้ำอัจฉริยะ SKC-001” สำหรับการติดตามสถานการณ์น้ำแบบเรียลไทม์ โครงการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมและการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม